Last updated: 11 ส.ค. 2566 | 253 จำนวนผู้เข้าชม |
สืบเนื่องจากวันก่อนมีลูกค้าท่านนึง ส่งสร้อยคอไข่มุกทรงบารอกที่ซื้อกับทางร้านกลับมาเพื่อให้ทางร้านช่วยขจัดกลิ่นอันไม่พึงประสงค์ออกจากน้องมุก วันนี้พี่พรายเลยอยากจะมาเล่าเรื่องกลิ่นของไข่มุกให้ท่านลูกค้าร้าน PAKASIA ทุกท่านได้รับทราบ เพื่อจะได้ไม่ตื่นตระหนกตกใจ หากวันนึงท่านได้ประสพพบเจอกับเหตุการณ์ดังกล่าว รวมทั้งเพื่อให้ท่านลูกค้าทั้งหลายได้เข้าใจถึงธรรมชาติของไข่มุกมากยิ่งขึ้นด้วยครับ
โดยปกติไข่มุกจะมีกลิ่น (Odor) เฉพาะตัวที่ติดมากับไข่มุก ซึ่งภายหลังจากการเก็บเกี่ยว ไข่มุกทุกเม็ดจะผ่านกระบวนการกำจัดกลิ่นก่อนแล้วโดยผู้ผลิต แต่ก็อาจมีบางส่วนที่หลุดรอดจากกระบวนการดังกล่าวมาได้
ซึ่งกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์นั้นสามารถเกิดขึ้นได้ทั้งไข่มุกสายพันธุ์น้ำจืดและน้ำเค็มครับ แต่โดยมากจะพบในกลุ่มของไข่มุกทรงบารอก (Baroque) มากกว่าไข่มุกรูปทรงอื่นๆ โดยกลิ่นของไข่มุกนั้นไม่ได้เกิดบนชั้นผิวของไข่มุกนะครับ แต่เกิดจากภายในเม็ดมุกครับ ซึ่งบางครั้งหากลูกค้าที่ได้รับไข่มุกที่มีกลิ่นไม่พึงประสงค์ไป ก็จะมักจะสอบถามไปยังผู้ขายทันที ซึ่งคำตอบที่ได้จากผู้ขาย ที่มักจะได้ยินกันเป็นประจำคือ “ Don’t worry! น้องมุกมีกลิ่นทะเล เอาไปแช่นำเกลือ เดี๋ยวกลิ่นก็หาย” หรือบ้างก็บอกว่าลองเอาแอลกอฮอล์เช็ดสิ รับรองกลิ่นหายชัวร์ๆ โอย..สารพัดสารเพ...จนแล้วจนรอดกลิ่นก็ไม่หายสักกะที...
ก่อนอื่นต้องขอชี้แจงก่อนนะครับว่า กลิ่นไม่พึงประสงค์ที่เกิดกับไข่มุกนั้นไม่ใช่กลิ่นทะเลแต่อย่างใดครับ (และเอาแอลกอฮอล์เช็ดไม่ได้ด้วย เพราะแอลกอฮอล์จัดว่าเป็นสารเคมีที่มีฤทธิ์กัดกร่อนชนิดหนึ่ง) แต่เป็นกลิ่นของซากปรสิต หรืออินทรีย์วัตถุ เช่น พืชหรือสิ่งมีชีวิตขนาดเล็ก ที่เข้าไปติดอยู่ภายในเม็ดมุก และออกมาไม่ได้เพราะถูกชั้น Nacre ที่หอยหลั่งออกมา ห่อหุ้มไว้นั่นเองครับ (เป็นกลไกในการปกป้องตัวเองของหอยครับ) ซากเหล่านั้นจึงเกิดการเน่าเปื่อยอยู่ภายในนั่นเอง และเจ้าซากพวกนี้แหละครับที่เป็นต้นตอแห่งความไม่สมบูรณ์ทางรูปทรงของไข่มุกเพราะเม็ดมุกที่เราตั้งใจจะเลี้ยงให้เป็นทรงกลมนั้น กลับบิดเบี้ยวเสียรูปทรง จนกลายเป็นไข่มุก Baroque shape ไปซะนี่
แล้วน้ำเกลือช่วยได้จริงหรือ? คำตอบคือน้ำเกลือไม่ช่วยให้กลิ่นหายไปครับ หากไข่มุกเม็ดนั้นมีเศษซากอินทรีย์วัตถุ ติดค้างอยู่หลายในหลายๆ ตำแหน่งของเม็ดมุก หรือบางส่วนนั้นซ่อนอยู่ในโพรงเล็กโพรงน้อยที่สลับซับซ้อน ภายใต้ชั้นผิวของไข่มุก เพราะกลิ่นยังถูกกักเก็บอยู่ภายใน และไม่สามารถชะล้างออกมาได้ด้วยน้ำ ดังนั้นกลิ่นก็จะไม่ไปไหนครับ แต่จะเล็ดลอดออกมาทางรูเจาะ ให้เราได้สูดดมกันเป็นระยะๆครับ...ฮา
แต่ถ้าโชคดีหน่อย ซากที่ติดอยู่ภายในมุกนั้น มีอยู่ตำแหน่งเดียวและอยู่ในตำแหน่งที่ตรงกับรูเจาะ เศษซากดังกล่าวอาจจะมีโอกาสหลุดออก หรือไหลออกมาทางรูเจาะได้ครับ คราวนี้ท่านอาจจะใช้น้ำเกลือล้างสิ่งสกปรกออกจากเม็ดมุก จากนั้นจึงนำน้องมุกไปผึ่งลมหรือแดด เมื่อสิ่งสกปรกภายในออกหมดแล้ว มีอากาศถ่ายเทจากภายในสู่ภายนอกเม็ดมุก กลิ่นที่รุนแรงอาจจะเบาบางลงได้ครับ
ปัจจัยอีกประการนึงที่ช่วยระงับกลิ่นของน้องมุกได้ นั่นก็คือตัวเรือนครับ น้องไข่มุกที่นำไปประกอบกับตัวเรือนแหวน ต่างหู จี้ กำไล เรามักจะไม่ได้กลิ่นไม่พึงประสงค์ของน้องมุกครับ อันเนื่องมาจากตัวเรือนเหล่านี้จะทำหน้าที่เป็นฝาปิด ขังกลิ่นไว้ภายในนั่นเองครับและน้องมุกที่นำมาประกอบกับตัวเรือนดังกล่าวเกือบทั้งหมด เป็นไข่มุกที่ถูกเจาะแค่เพียงครึ่งเดียว (Half Drilled) กลิ่นอันไม่พึงประสงค์เลยหมดหนทางเล็ดลอดออกมาสร้างความเดือดร้อนรำคาญให้กับผู้สวมใส่ได้นั่นเองครับ
แต่ถ้าเป็นไข่มุกเจาะทะลุที่ถูกนำมาร้อยเป็นเส้น เช่นสร้อยคอไข่มุก หรือสร้อยข้อมือไข่มุก ซึ่งใช้เส้นด้าย หรือเส้นไหม เป็นแกนกลางแล้วหละก็ แม่เจ้าพระคุณเอ๋ย! กลิ่นจะรุนแรงกว่าปกติเลยครับ ทำไมถึงเป็นเช่นนั้นหละ ก็เพราะว่าเจ้าด้ายหรือไหมนี่แหละครับที่เป็นตัวนำพากลิ่นไปยังไข่มุกเม็ดอื่นๆด้วย อันเนื่องมาจากไหมหรือด้ายที่ถูกนำมาร้อยผ่านเข้าไปในรูของไข่มุก เม็ดที่มีกลิ่นนั้น ด้ายจะสัมผัสกับซากอินทรีย์ที่เน่าเปื่อยอยู่ภายในเม็ดมุกเม็ดนั้นโดยตรง และเส้นใยไหมจะดูดซับของเหลวที่มีกลิ่นเอาไว้ เมื่อนำไข่มุกเม็ดอื่นๆ ที่ไม่มีกลิ่น มาเรียงร้อยด้วยไหมเส้นดังกล่าวด้วย จึงทำให้เราได้กลิ่นราวกับว่ากลิ่นนั้นออกมาจากไข่มุกทุกเม็ดบนสร้อยเลยทีเดียว ลูกค้าบางท่านบอกว่าขนาดตะขอยังมีกลิ่นเลยค่า พี่พรายขา ฮา...
แล้วจะต้องทำอย่างไรที่จะขจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์ออกจากไข่มุกสุดรักได้? เดือดร้อนพี่กู (เกิ้ล) อีกแล้วหละสิทีนี้ ค้นไปค้นมาได้ความว่า ให้เอาไข่มุกไปแช่ในสารเคมี Hydrogen peroxide จะสามารถขจัดกลิ่นรุนแรงของน้องไข่มุกได้ชะงัดนัก!
ถ้าพี่พรายอยู่ข้างๆ คงเบรกลูกค้ากันจนตัวโก่ง จริงอยู่ที่ Hydrogen peroxide นั้นเป็นเคมีที่ใช้ประโยชน์ได้หลายอย่างนะครับ เช่น ใช้ล้างแผลฆ่าเชื้อโรคใช้กำจัดกลิ่นก็ได้ ใช้เป็นส่วนประกอบในน้ำยาย้อมผมก็ได้ แต่ในอุตสาหกรรมการผลิตไข่มุกนั้น Hydrogen peroxide เป็นเคมีหลักที่ใช้ในการทำ Treatment ในกระบวนการฟอกสีไข่มุก (Bleaching) ดังนั้นจึงมีความเสี่ยงมากครับที่น้องมุกของเรา จะสูญเสียสีดั้งเดิมที่เป็นสีธรรมชาติไป โดยเฉพาะไข่มุกที่มีสีเข้มครับ เผลอๆกลิ่นก็ไม่หายแถมมุกสีเปลี่ยนอีก เฮ้อ ...ทำไงดีหละคราวนี้
วิธีการที่ง่ายที่สุด ประหยัดที่สุด และปลอดภัยที่สุดคือการส่งคืนร้านค้าที่ซื้อมานั่นเองครับ โดยอาจจะขอให้ทางร้านช่วยดำเนินการรื้อแล้วร้อยประกอบใหม่ โดยการเปลี่ยนไข่มุกบางเม็ดที่มีกลิ่นออกไป หรือเปลี่ยนสินค้าให้ใหม่ก็ได้ครับ น่าเป็นวิธีที่ save แรง save ร่างทั้งคนซื้อและคนขาย อย่างที่สุดแล้วครับ เพราะถ้าหากเราลองผิดลองถูกด้วยตนเองจนเกิดความเสียหายแก่น้องมุก คราวนี้ร้านเองก็มีข้ออ้างในการเปลี่ยนคืนสินค้าให้กับลูกค้าได้ครับ
เอาละครับ หวังว่าสาระน่ารู้ที่พี่พรายนำมาฝากในวันนี้จะถูกใจบรรดา Pearl Lovers ทั้งหลายของ PAKASIA นะครับ ถ้าเห็นว่าบทความนี้ดีมีประโยชน์ ช่วยกด Like กด Share ให้พี่พรายด้วยนะครับ ถ้าท่านมีข้อสงสัยประการใดสอบถามพี่พรายเข้ามาได้นะครับ ตามช่องทางดังนี้ครับ
Line id : @mookdee
Tel : 075-810-028
IG: pakasia_pearls
facebook: Pakasiaa Prime
www.pakasiapearl.com